วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

8 : ตะโกนออกมาว่า Let's it go!

เมื่อวานหลังจากลงเวรเช้า
พี่พยาบาลเวรบ่ายก็โทรมาถามว่า
"น้องให้ยาแอเรียส คนไข้ห้อง 9 ไปเท่าไร"
.. นึกอยู่พักนึง แล้วตอบว่า "0.5 cc. ค่ะ"
พี่พยาบาลบอกว่า
"เค้าสั่ง 0.5 ช้อนชาค่ะน้อง เมื่อกี้ญาติทักว่าเวรเช้าให้น้อยกว่านี้"

วางสายแล้วรู้สึกแย่มาก
จาก 0.5 ช้อนชา = 2.5 cc
ให้ไปเพียง 0.5 cc น้อยมาก

เป็นอุบัติการณ์ระดับ C
คือผิดพลาดไปถึงคนไข้แล้ว แต่ไม่ได้เป็นอันตราย

ถึงยังไงก็รู้สึกผิดอยู่ดี

พี่หมอบอกว่า
"ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอก 
แต่จะเอาความผิดพลาดนั้นมาเรียนรู้ยังไง"

ช่วงนี้ที่หอผู้ป่วย คนไข้เด็กน้อยลงมาก
น้อยจนต้องลดจำนวนพยาบาลลง
จาก 3 ทีม เหลือ 2 ทีม
ดูคนไข้ ฝั่งละคน

แต่ทว่า.. คนไข้ฝั่งแรก มีเพียง 2-3 คน
แต่ฝั่งวาวนี่สิ.. 7 คน
เป็นเคสห้องแยก เก็บ Stem cell ให้ Chemo 1 ห้อง
 Pre op 2 ห้อง
รับใหม่ 1 ห้อง

จากเมื่อวานที่ให้ยาผิด
มาวันนี้เลยค่อนข้างจะกลัวพลาด

Check ยาแล้ว check อีก
จะให้ยาก็อยากให้พี่ตามไปในห้องด้วย

แต่พี่ไม่
วันนี้พี่ปล่อย ปล่อยให้ทำคนเดียวด้วย
ทั้งห้องแยก (ที่ต้องใส่ Mask กาวน์ โกลฟ) drip ยาด้วย Volutone set
แบบกลัวมาก ตายแล้วชั้น

เคยให้ Set Volutone อยู่ แต่มีพี่ตาม และยังไม่คล่อง
จู่ๆ วันนี้ก็แบบ "เดี๋ยวจะเป็นตัวจริงแล้ว พี่ปล่อยนะ"

เข้าไปในห้องก็ไปทะเลาะกับ Volutone set พักนึง (บีบน้ำไม่ลง)
พอน้ำลง ก็เกินอีก บีบกลับ แอร์เข้า ไล่แอร์ในสาย
โอ๊ย ชีวิต กว่าจะได้ drip T____T
แล้วก็ต้องเข้าออกห้องนั้นอยู่หลายรอบ เพราะว่า
ต้องให้ยา แล้วก็ไล่ยาในสาย

ห้องนึงก็ acute febrile illness (ไข้ไม่ทราบสาเหตุ)
แต่หมอ R/O ว่าเป็น DHF
ไข้สูงแบบปริ้ดมาก > 38.5 39.2 ให้ยาลดไข้ + เช็ดตัว
ไข้ลงแล้วขึ้นใหม่ ช่วงนี้เลย Obs. จุดเลือดออกไปพลางก่อน

ส่วนเคส pre op 2 ห้องนั้น...
ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะมี order แบบ NPO AMN
แต่อันนี้แบบเด็กเล็ก
 ห้องนึงกินอย่าง อีกห้องกินอย่าง
prep skin คนละที่
นี่ไปอธิบายแม่แบบเอาโพยจดไปแล้วบอกว่า
"กินอาหารตามนี้นะคะ งดกี่โมง กินนมอะไรได้ ถึงกี่โมง
มีน้ำเกลือตอนกี่โมง ผ่าตัดยังไง แล้วต้องทำความสะอาดผิวที่ไหน"

อีกห้องนึง ก็มีปัญหา Hyper K
Kalimate power @ 4 gm q 4 hr 2 dose ตามแลป K 24น.
โดสยาแรก ป้อนเอง
โห นี่รู้ซึ้งเลย ป้อนยาเด็กยากมาก แถม Kalimate จะหนืดไปไหน
ต้องกวนน้ำอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นแข็งโป๊กอีก
โชคดีที่เด็กกินยาหมด
และเรื่องตามแลปเที่ยงคืน วาวก็เจาะเองด้วย

อยากตะโกนดังๆ ว่า เป็นเคสแรกที่เจาะเลือดเด็กได้
ดีใจมากที่สุด

เคสรับใหม่ คนไข้สูติฯ C/S มา
นานๆ เจอซะที ก็เหมือนได้ทวนความรู้

แต่ผ่านไปได้ด้วยดี
วันนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด

แต่ส่งเวรกุกกักมาก
ไม่เคยอยู่ทีมนี้เลย
โดนย้ายมาเพราะอีกฝั่งคนไข้น้อยเกินไป

ปลายเดือนจะขึ้นเวรเช้าตรงกับเพื่อน
พี่พยาบาลบอกว่า ต้องมีคนนึงอยู่ทีมยุ่งๆนี้ เป็นเจ้าแม่ทีมสาม

เวรยุ่ง ก็สนุกไปอีกแบบ

ใครเข้ามาอ่าน ถ้าไม่ได้เรียนแพทย์ พยาบาลมาอาจจะงงๆ
แต่เชื่อเถอะ โดยรวมแล้ววันนี้วาวโอเค

หวังว่าพรุ่งนี้คงจะทำดีเรื่อยๆ
ไม่มีอะไรผิดพลาดให้เป็นผลเสียแก่คนไข้

วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

7 : ตกเบิก กินแกลบ

ไม่ได้เขียนหลายวันมาก
ยุ่งวุ่นวายกับอะไรหลายๆ อย่าง

งานแต่งงานพี่ชายเป็นไปได้ด้วยดี
มียุ่งๆ นิดหน่อย
น้องสาวอย่างเราต้องคอยวิ่งตาม
อะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำ ยกให้วาวจัดการหมด

ญาติๆ มาเต็มบ้าน มาเยอะกว่าช่วงเช้งเม้งอีกล่ะมั้ง
ไม่ได้มาเช้งเม้งหลายปี 
เจอลูกพี่ลูกน้องที่อายุน้อยกว่าวาวประมาณสิบปี
ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อนักกีฬาฟุตบอล สาวติดตรึม
อายุ 13 ปี แต่สูง 160 กว่า (สูงกว่าวาว)
พอยืนใกล้ๆ กันแล้ว มีแต่ญาติบอกว่า
 "เหมือนรุ่นเดียวกันเลย"

นี่เป็นของชำร่วย

งานแต่งพี่ชายฮาตรงเพื่อนๆ จากเทคนิคนี่แหล่ะ

กลับจากงานแต่งเข้าสู่สภาวะทำงานเช่นเดิม

สิ่งที่พัฒนาขึ้นคือ รู้สึกจะส่งเวรได้ดีกว่าเดิม
ถ้าอยู่ทีมเดิมนะ แต่เปลี่ยนทีมแล้ววันแรกจะส่งเวรแบบก่งก๊งนิดหน่อย

สิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไปคือเรื่องเจาะเลือด Fail ตลอดเลย
เส้นเด็กเจาะยากจริงๆนะ ไม่เจอเด็กทารก ก็เด็กอ้วนไปเลย

ล่าสุดแทงไปไม่เจอเส้น
เด็กบอก "ไม่เจ็บเลยค่ะ"
คือที่ไม่เจ็บเพราะไม่โดนเส้นเลือดเลยสินะะะ!!

สิ้นเดือนนี้ พี่หัวหน้าวอร์ดมี Plan จะให้วาวไปเที่ยวกับพี่ซีเนียร์
(แอบรู้ว่าคร่าวๆว่า ไม่มีพี่จูเนียร์ไปเลย) 
เพื่อนร่วมงานที่อยู่ปีเดียวกันบอกว่า "น่าไปนะแก ไปเกาะด้วย"
คือ ต่อให้ไปไม่เกาะ ก็เหมือนโดนปล่อยเกาะอยู่แล้วมั้ย??

ไปกับพี่ซีเนียร์ไม่ค่อยสนิท
รู้สึกไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง

แต่ถ้าไม่ไป แล้วเมื่อไรจะได้สนิทกัน
ถ้าไป อาจจะได้เจอ ได้รู้อะไรๆมากขึ้นก็ได้
ได้ไปเที่ยวด้วย... เวลาเที่ยวๆ ยิ่งหายากๆอยู่

รอดูก่อนแล้วกันนะ

เดือนหน้าจะได้เป็น "ตัวจริง" แล้ว
รู้สึกกังวลปนเครียดพอสมควร
กลัวนู่นนี่นั่น กลัวทำไม่ได้ ไม่ทัน กลัวส่งเวรไม่รู้เรื่อง
กลัวทำงานไม่เรียบร้อย กลัวคนไข้ กลัวญาติคนไข้
ฯลฯ

ยิ่งใกล้สิ้นเดือนเท่าไร ยิ่งรู้สึกว่าร่างกายตัวเองเครียดมาก
กินไม่ได้ นอนไม่ค่อยหลับ
มีเพื่อนทักว่า ผอมลง หลายคนมาก

นี่ก็รู้ตัวว่า ผอมลงจริงๆ จะปลิวลมอยู่แล้ว
เบื่ออาหารขั้นสุด แถมบางครั้งมีคลื่นไส้ อาเจียนอีก
เฮ้อ

แม่บอกว่า แรกๆ ก็งี้แหล่ะ ทำงานไปเรื่อยๆ เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
ลูกผ่านอุปสรรคตอนเรียนมาตั้งเยอะแยะ แค่นี้เอง ทำได้อยู่แล้ว

วางสายแล้วน้ำตาปริ่ม

โพสรูปตัวเองตอน 9 เดือนลง FB

แม่มาเมนท์ว่า
"รู้สึกเหมือนเพิ่งถ่ายไปไม่นานมานี้เอง"
..
ไม่นานได้ยังไง ผ่านมา 23 ปีแล้วนะแม่

ตอนนี้เงินเดือนตกเบิกมา 2 เดือน
ทนใช้เงินเก็บตัวเองมาตลอด ตั้งแต่เรียนจบ
หวังว่า จะได้เงินเดือนวันที่ 15 เดือนนี้

โทรไปบอกพ่อแม่กับเจ๊ว่า
"สิ้นเดือนนี้ เงินเดือนวาวจะออกแล้ว ไปหาอะไรอร่อยๆกินกันนะ เลี้ยงเอง"

แล้วยังไง

จนแล้วจนรอดเงินเดือนก็ไม่ออก
สุดท้ายเลย ต้องขอยืมแม่อีกจนได้..
เฮ้อ