วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

32 : อุปสรรค

ย้ายลงมาปรับตัวกับงานใหม่ ประมาณ 5 เดือน

ก็มีถูกบ้าง ผิดบ้าง
เหนื่อยบ้าง

แต่วันนี้คงเป็นวันที่เจออุปสรรคมากที่สุด
และจากการสะสมมานาน ก็ระเบิดจนบ่อน้ำตาแตก

งานที่คลินิกด่านหน้า เป็นคลินิกที่ใครหลายคนไม่รู้ว่ามี
ก่อนนี้พยาบาลจากหลายๆคลินิกจะเวียนมาที่นี่
และตอนนี้วาวก็ลงมาเป็นตัวจริง ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

ความผิดพลาดในหลายครั้งที่ผ่านมานี้
คือการซักประวัติคนไข้ไอ เพื่อ คัดกรองวัณโรคปอด

ในหลายครั้งที่เอาประเด็นสำคัญ ในการถามคนไข้ว่า
อาการสำคัญที่มา รพ. คืออะไร
โดยไม่ได้ถามคนไข้ว่าไอไหม หรือ 
คนไข้ก็โฟกัสกับอาการที่เป็น ก็บอกว่า ไม่ไอ

แล้วเมื่อเดินไปถึงคลินิก ก็ถูกตำหนิ คือ ไอมานั่นแหล่ะ
พอบอกว่า พี่ เมื่อกี้คนไข้ไม่ได้บอกแบบนี้ ไม่ได้บอกว่าไอ
พี่ก็ว่า ทีหลังน้องซักประวัติให้มันดีดีหน่อยนะ ทำงานมากี่เดือนแล้ว 
ทำไมทำานแย่ลง

เครียดมาก ร้องไห้ที่เคาน์เตอร์เลย

มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ กับโมเมนต์แบบนี้ต่อหน้าคนไข้

อยากบอกตัวเองว่า จะต้องเข้มแข็ง แข็งแกร่งให้มากขึ้นเรื่อยๆ
น้อยใจบ้าง ท้อแท้บ้าง แต่จงลุกขึ้นเผชิญกับชีวิตจริงให้ได้

พี่เขาดุ เขาสอน เขาบอกว่าเราทำอะไรผิด จงว่าไปตามผิด
จงมีความกล้าหาญ ยอมรับ และปรับปรุงหากสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง
อย่าทำ เพราะ ไม่รู้
และ หากไม่รู้ ก็บอกไปตรงๆ 

ยังมีความไม่รู้อีกเยอะ
ตัวเรา เมื่อเติบใหญ่ จงสอนน้องอย่างมีเมตตาและให้อภัย
ติ เพื่อ ก่อ ก่อให้เกิดประโยชน์
จงอย่าลืมความรู้สึกของความไม่รู้สมัยเด็ก

มันสำคัญจริงๆ

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

31 : จุดเริ่มต้นงาน OPD

ไม่ได้เขียนบันทึกมานานมาก มากจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี 
เอาเรื่องงานก่อนแล้วกัน

เริ่มต้นย้ายงานจาก IPD เป็น OPD 
งาน OPD นั้น ตอนนี้เป็นตัวลอย คือ Float ได้ตลอด
ที่ไหนยุ่ง ก็ไปช่วยที่นั้น งานก็จะหลากหลายหน่อย

แต่ช่วงสัปดาห์แรกที่เริ่มทำงาน คือ ไปอยู่ด่านหน้า
ด่านหน้า เป็น ด่านแรก ที่คนไข้เข้ามา รพ. จะต้องเจอ
หน้าที่สำคัญคือต้อง Screen อาการ คนไข้ว่า มา รพ. เป็นอะไรมา
แล้วเราจะส่งคนไข้ไปที่ไหนบ้าง

โดยส่วนใหญ่แล้ว มาครั้งแรก ก็ต้องไปทำบัตร รพ. ก่อน
ถามเรื่องสิทธิ์การรักษา ถ้าใบส่งตัว ก็ต้องให้ไปตรวจสอบสิทธิ์ก่อน
หรือ หากคนไข้มาอาการเร่งด่วนแล้วงี้ ก็ให้ไป ER (ฉุกเฉิน) ได้เลย
รายละเอียดเยอะแยะยิบย่อยมากมาย มีหลายเรื่องที่ไม่รู้
แต่ก็ต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ

เรื่องย้ายหอ
ตอนนี้ก็ย้ายมาอยู่หอคนเดียวแล้ว มันก็จะเหงาหน่อยๆ
แต่ก็มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น คุยกับตัวเองบ่อยขึ้น

เป้าหมายของปี 2018

- จงหัดตื่นเช้าให้เป็นปกติของชีวิต 
เพราะจากนี้ไป จะไม่มีคำว่า นอนตื่นสายอีกแล้ว

- จงดูแลตัวเอง
โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ การออกกำลังกาย และการแต่งหน้า
ตอนนี้ชีวิตจะเป็นเหมือนคนทั่วไป ทำงานเช้า กลับบ้านตอนเย็น
อย่าละเลยการออกกำลังกาย และหัดแต่งหน้าให้ชิน

- จงอดทนและเข้มแข็ง
การย้ายงานใหม่ เราจะต้องเรียนรู้ระบบอีกหลายๆ อย่าง
อาจจะมีบ้างที่เครียด โดนดุ โดนตักเตือน ขอจงอย่าท้อ
อยากให้ตัวเราสู้ อดทน และเข้มแข็ง แล้วเราจะผ่านไปได้เหมือนทุกครั้ง
เพื่ออนาคตที่สดใสของเราเอง


วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559

30 : เปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงาน

ไม่ได้เขียนบล็อคมานานมาก จะเกือบครบปีแล้ว
เป็นเพราะมีน้องพยาบาลคนนึงมา Comment ก็เลย..
เขียนสักนิดแล้วกัน

ชีวิตการทำงานในช่วงที่ผ่านมานี้ก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากมาย
เริ่มจาก.. ย้ายสถานที่ทำงาน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องห้องพิเศษ
หลังจากย้ายมาสถานที่ใหม่ ชีวิตก็ดี คนไข้น้อย
แล้วก็เพิ่มห้องพิเศษเพิ่ม แต่ยังไม่เท่ากับที่เดิม
เลยต้องปลดพยาบาลวันละ 2 คน
หมายความว่า จะมีพยาบาลเกินมา 2 อัตรา

หัวหน้าหอผู้ป่วยเลยแก้ปัญหาโดยการส่งพยาบาลไปช่วยที่อื่น
สลับกันไป 2 ที่
1. ไปช่วยหอผู้ป่วยตา.. ไปคนละ 3 เดือน 
2. ไปช่วยคลินิคเด็กไปคนละ 2 สัปดาห์

สลับกัน 4 คน 
คนแรก ไปหอผู้ป่วยตา
อีก 2 คน แบ่งกันไปคลินิคเด็ก คนละ 2 สัปดาห์ต่อเดือน
อีกคนประจำหอผู้ป่วยเดิม

ตอนนี้คนแรกไปหอผู้ป่วยตามา 3 เดือนแล้ว
คิวต่อไปต้องเป็นวาว

อีกสามเดือน
ชีวิตจะเป็นยังไงไม่รู้
แอบเครียดดดดดดดดดดดดดดดดด 

ต้องเปลี่ยนแปลงไปทำอะไรที่ไม่คุ้นเคย
ไม่ถนัด

แต่คิดในแง่ดี ก็จะได้รู้เรื่องโรคเกี่ยวกับตามากขึ้น

ชีวิตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
เรามาลุ้นกันไปพร้อมๆกันในเดือนหน้านะคะ

บัยยยยยส์

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

29 : สอบใบขับขี่ผ่านแล้ว

ต้นเดือนเมษา ลาพักร้อนกลับบ้าน 7 วัน
ไปเรียนขับรถทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง 5 วัน
ก็พอขับเป็นแต่ไม่คล่อง

กลับมาหาดใหญ่
บอกพี่ที่หาดใหญ่ว่า อยากหัดขับรถ
เค้าก็ยินดีให้ขับนะ ยินดีสอนด้วย

หัดขับได้ประมาณเดือนนึงก็สอบใบขับขี่ครั้งแรก

สอบที่สงขลา
ครึ่งวันแรก ไปฟังอบรม
อยากบอกว่า ข้อสอบไม่ยาก พยายามฟังดีๆ
ช่วงบ่ายสอบ
สำหรับข้อเขียน 50 ข้อ ผ่าน 45 ข้อนั้น
วาวผ่านตั้งแต่รอบแรก (ได้ 47สอบใบ คะแนน)

วันรุ่งขึ้นไปสอบปฎิบัติ
รอบแรก ผ่านเดินหน้าถอยหลังที่แคบ
ตก .. เทียบฟุตบาท จอดห่างจากเส้นเกิน
ตก.. จอดเข้าซอง ถอยชน

รอบสอง
ผ่าน จอดเทียบฟุตบาท
ตก ถอยเข้าซอง เกียร์เกิน 7 เกียร์
(จริงๆ ผ่านตั้งแต่ถอยเข้าได้ครั้งแรกแล้ว แต่รถชิดขอบมาก ไม่มั่นใจ ถอยจนเกียร์เกิน)

รอบสาม
ผ่าน ถอยจอดเข้าซอง ถอย 4 เกียร์ผ่านเลย ฮา

แต่ก็ยังไม่มีรถขับอยู่ดี แฮ่


ได้ขับขับขี่ชั่วคราว แบบอยู่ได้ สอง ปี เชียววนะเธอว์

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

28 : I'm 24 years old.

ปีนี้อายุ 24 แล้ว ไวจริงๆ
ทำงานมาเกือบปีแล้วด้วย 
แต่ความรู้สึกเป็นน้องใหม่ ยังจำได้อยู่ไม่จางหาย

สมัยนี้เทคโนโลยีเข้ามาในชีวิตมากขึ้น
เบอร์โทร วันเกิด มนุษย์เราแทบจะไม่ต้องจำกันแล้ว

ปีนี้วาวไม่เปิดโชว์วันเกิดตัวเองในเฟสบุ้ค
คนที่จำได้ส่วนใหญ่มักเป็นคนสำคัญ เพื่อนสนิทกันจริงๆ

ถึงจะได้รับคำอวยพรวันเกิดไม่ถล่มทลายเหมือนคนอื่นๆ
แต่มั่นใจได้เลยว่า คนเหล่านี้แหล่ะ 
จำวันเกิดเราได้จริงๆ


ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดนะคะ

ทางซ้าย เป็นตุ้กตากลิ่นหอมของแอน
แอนเป็นคนชอบตุ้กตามาก มักจะซื้อตุ้กตาเป็นของขวัญให้เสมอ
ไม่ว่าจะเนื่องในโอกาสอะไรก็ตาม ส่วนวาวมักซื้อหนังสือให้แอน
ทั้งๆ ที่รู้ว่า แอนชอบตุ้กตา 555

ทางขวาเป็นตุ้กตาลิลัคคุมะของพี่นิน
ด้านหลังลิลัคคุมะเป็นซิป สำหรับใส่กระเป๋าใบเล็กๆไว้
อารมณ์ประมาณเป็นของประดับกระเป๋า แต่ถ้าซื้อของเยอะ
เจ้าตัวนี้ก็มีกระเป๋าสำรองให้อีกใบ
นอกจากแขวนสวยๆ แล้วยังมีประโยชน์อีกด้วย

อีกอย่างนึงคือของดาว เป็นเสื้อคอทหารเรือแบ๊วๆ มาก
ส่งซักแล้ว ใส่แล้วกลัวมีคนคิดว่าแต่งคอสเพลย์ 555

ขอบคุณทุกคนเลย 
ปีหน้าก็เบญจเพสแล้ว T^T


วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

27 : New Year 2015

สวัสดีปีใหม่
กว่าจะมีเวลาได้มาอัพบล็อคก็ล่วงเลยเวลามาเกือบเดือน

วาวขึ้นเวรบ่ายของวันที่ 31 ธ.ค.
หมายความว่า เลิกงาน จุดพลุปีใหม่ ^^

ปีใหม่ได้ของขวัญจากฝ่ายการพยาบาลด้วยค่ะ
เป็นร่มอัตโนมัติ

Selfies กับพี่ๆ เวรบ่าย :)


ดูพลุๆ



หลังจากปีใหม่ ก็เป็นวันเด็กฮะ

ทำกระทงใส่ขนม



เดือนมกรา ขึ้นเวรเยินมากครัช
แต่รวยมาก พูดเลย 555

ของขวัญปีใหม่ได้มาหลายชิ้นค่ะ
แต่ชิ้นนี้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานที่สุด เป็นสัปดาห์เลย 555


กลางเดือนหน้า Plan ไปอบรมที่เชียงใหม่ค่ะ
ตื่นเต้นมากกกกกกกกกกกก

อยากไปสัมผัสอากาศหนาว ซึ่งไม่รู้ว่ายังหนาวอยู่มั้ย
อยากไปดูดอกไม้ ไปกินสตรอเบอร์รี่
ไปเดินถนนคนเดิน บลาๆๆ ><

จองตั๋วเครื่องบิน ซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ไว้ใส่ของฝาก
อ้อ.. วาวทำตารางเวรลง App ปฏิทิน
ไม่เคยรู้เลยว่า การที่จองตั๋วเครื่องบินแล้วมันบอก Flight บินด้วย
ออกจากที่ไหน กี่โมง ถึงกี่โมง คือดีอ่ะ

แต่คนที่วาวแชร์ปฏิทินเค้าไม่เห็นแฮะ 555


ใครมาอ่าน อยากให้ลองเอาไปใช้ดูนะ
สะดวกดี แต่ต้องขยัน update ปฏิทินหน่อย ทุกๆเดือน

ใช้อยู่ 2 App คือ CalenMob กับ Sunrise 
มีทั้ง Android และ iOs 
^^


วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

26 : กลัวการเริ่มต้น

ออฟไปสองวัน
กลับมาเริ่มทำงานนี่มีไฟมากนะ
เหมือนช่วงออฟ ได้กลับไปชาร์จแบตเต็มที่

ช่วงทำงานเลยค่อนข้าง Active เป็นพิเศษ
ถึงขนาดหลอนเครื่อง Infusion Pump และ Syringe Pump ทั้งเวร
หลอนว่าเครื่องดัง ติ้ดติ้ด 
เข้าไปดู อ้าว ไม่ใช่นี่หว่า

ตอนนี้ไม่ค่อยกลัวเวลาคนไข้มาให้ยาคีโมแล้ว
เริ่มเข้าใจ Process มากขึ้น ว่าควรให้อะไรยังไงก่อนหลัง
step เป็นยังไง

ไม่กลัวการให้เลือดด้วย
แต่กลัวการเริ่มต้นให้อ่ะ...

กลัวการเริ่มต้นยาใหม่ๆ
การเซ็ตการ์ดยาใหม่ การจัดการเวลาสลับให้ยาไรงี้
ยิ่งคนไข้ซับซ้อน แพทย์สั่ง Start ยาเยอะๆ รันตามชั่วโมง ทุกกี่ชั่วโมงต่อวัน

พยาบาลจึงมีหน้าที่บริหารจัดการยาเหล่านี้
คือต้องคิดให้เยอะ

จะเล่าถึงเคสวันเยินๆ วันนึงละกันนะ
คนไข้เด็กคนนึง First Dx AML

เอาเฉพาะในเวรเช้านะ

มี ABT ดังนี้
Tienam q 6 hr
Vanco q 6 hr
Ampho q 24 hr
ก่อนให้ Ampho ต้อง load NSS 100 ml
มี paracet + CPM ก่อนให้ Ampho

มีให้ GCSF q 24 hr

มีให้เลือดดังนี้
LD Plt 1 u
LDPRC 1 u

มี IV 
5% D/N/3 rate 40 ml/hr

ไม่นับยารับประทานทั้งหลายนะคะ

เอาล่ะ มาเริ่มคิดกัน
คนไข้มี HL 2 เส้น เส้นหนึ่งให้ IV fluid
อีกเส้นว่างอยู่

เส้นที่ไม่ได้ให้ IV Fluid นั้น ให้เลือดค่ะ เพียวๆ
วาวเริ่มงี้เลย Drip LD Plt ใน 1 hr.
ปรากฎว่า คนไข้แพ้ LDPlt ค่ะ ผื่นขึ้น notify ไป
หมอบอก Hold ไว้ก่อนแล้ว CPM Stat 
จากนั้น 20 min หมอไปประเมินอาการอีกที บอกให้ Plt ต่อ ช้าๆ
สรุปเริ่ม LDPlt 10-12.30น.

*** Note สงสัยไว้นิดนึง LD Plt ตาม Protocol แล้วควรให้ใน 1 hr
กรณีนี้นี่ให้ late ไป (คือถามหมอว่าแล้วเกิน 1 hr นะให้ต่อมั้ย)
หมอโอเค ก็คือให้ต่อ
Note ไว้คิดต่อว่า LD Plt หลังจากเอามาให้แล้วมีอายุนานแค่ไหน?

แผนที่วางไว้ว่า LD Plt Drip ใน 1 hr พัง
กว่าจะเริ่มให้ LDPRC ต่อ เกือบเที่ยง แต่ไม่เป็นไร จัดต่อ
LDPRC Drip in 3 hr. 
เริ่ม 12.30 - 15.30น.

เส้นให้ IV Fluid สามารถให้ร่วมกับยาได้
เริ่มงี้
Vanco q 6 hr. ---> 3,9,15,21 น. Drip in 1 hr
Tienam q 6 hr ---> 6,12,18,24 น. Drip in 1 hr
ทั้งนี้เวลาดังกล่าวสามารถ บวกลบ ได้ครึ่งชั่วโมง
ก็ให้ก่อนครึ่งชั่วโมง เพื่อขยับเวลาได้อีกนิดหน่อย

หลังจากให้ Tienam 11.30 - 12.30 น.
นี่เลยเริ่ม GCSF ตอนเที่ยง Drip in 15 min
พักกินข้าว ครึ่งชั่วโมง

ตามด้วย Vanco 14.30น. - 15.30น.

แล้วเริ่ม pre ยา ก่อนให้ Ampho เป็น CPM + para + NSS 100 ml 
Drip in 1 hr 15.30 - 16.30น.

ก่อนจะส่งเวรให้พี่เวรบ่ายมาให้ Ampho ต่อเลย

สรุปท้ายสุด ปลายเวร หมอถาม
พี่ครับๆ ช่วยรวมยอดยา IV ให้ผมได้มั้ย

นี่ถามหมอว่า รวมทั้งเวรเหรอคะ? เลือดด้วยมั้ย

หมอบอก ไม่ครับ เอาเฉพาะยา Routine

วาวมานั่งคิดเรียง IV ยา ที่ได้ในแต่ละวันแล้ว
คนไข้ได้ไปทั้งหมด 328 ml (เฉพาะยา)

ปลายเวรหมอคิด rate IV Fluid ใหม่
เนื่องจากวันนี้ load IV ทั้งยาและเลือดไปเยอะมาก
อาการปลายเวรตาคนไข้เริ่มบวมตุ่ยๆละด้วย

Lasix ไปจัดไป 2 dose
Void เป็นพันซีซี

หมอคิด IV Fluid ใหม่
5%D/N/3 IV rate 9 ml
นี่มัน rate แบบ KVO นะเนี่ยะ - -"

สรุปเยิน แต่สนุกมาก
ได้คิดตลอดว่า ต่อไปจะเริ่มยังไง จะทำอะไรต่อ
อาการคนไข้ก็ต้องประเมินตลอด แพ้เลือด แพ้ยามั้ย
แต่เป็นแบบนี้ทุกวันไม่ไหวอ่ะ
ไม่ได้ดูคนไข้คนอื่นเลย
คล้ายๆ เหมือนอยู่ ICU กลายๆ 
(เพราะเล่นยุ่งกับคนไข้อยู่คนเดียว)
แต่  ICU คนไข้คงหนักกว่านี้นะ

ใครที่ไม่ได้เรียนมาสายนี้เข้ามาอ่านอาจจะงงๆ
แต่บอกได้ว่า วันนี้สนุกกับการบริหารจัดการคนไข้มากๆ

ข่าวดีวันนี้
ยินดีกับพี่ไอติมด้วยนะคะ จะมีน้องแล้ว

ยังไม่ได้เริ่มพาโรโร่ไปเดินเล่นเลย
เดี๋ยวๆ พรุ่งนี้จะไปถ่ายต้นไม้ใบหญ้าในสวนใต้หอ

แล้วจะเอาให้ยลโฉมมมม~